เลี้ยงม้า สะท้อนสถานะและรสนิยม

ในอดีตการมีม้าสักตัวถือเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง และปัจจุบันก็ยังไม่ต่างกันมากนัก การเลี้ยงม้าไม่ใช่แค่มีสัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นการบ่งบอกตัวตนและไลฟ์สไตล์ ของผู้เลี้ยงอีกด้วย ประมาณว่า

• เป็นคนรักธรรมชาติ เลือกเลี้ยงม้าในฟาร์มเพื่อใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์
• คนที่มองหาสัตว์เลี้ยงที่มีความพิเศษ ไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงธรรมดาๆ
• นักธุรกิจบางคนใช้ม้าเป็นสัตว์เลี้ยง สร้างภาพลักษณ์ให้รีสอร์ทหรือฟาร์ม หรือแบรนด์ธุรกิจดูหรูและแตกต่าง

ม้า ช่วยเยียวยาจิตใจ

หลายคนอาจไม่รู้ว่าม้าเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มีพลังด้านการบำบัดสูง การสัมผัสและการใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกับม้า ช่วยลดความเครียดและทำให้ใจสงบ รวมทั้งช่วยบำบัดอาการสมาธิสั้นของเด็กบางประเภทได้ด้วย กิจกรรมหลายอย่างที่ทำร่วมกับม้า เช่นการแปรงขนม้า จูงม้าเดินกินหญ้า เป็นกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลายจิตใจได้เป็นอย่างดี และการขี่ม้านอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพ สร้างภาวะความเป็นผู้นำและฝึกการเป็นผู้ควบคุม  จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมในต่างประเทศนิยมใช้ม้าในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า หรือเด็กที่มีภาวะพิเศษ

เลี้ยงม้า ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของคนยุคใหม่ 

เมื่อชีวิตในเมืองเต็มไปด้วยความวุ่นวาย หลายคนเลือกออกมาใช้ชีวิตในฟาร์มตามชนบท การเลี้ยงม้ากลายเป็น ไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่ผสมผสานความสุข ความภูมิใจ และการใช้ชีวิตอย่างพอเพียง การมีม้า 1-2 ตัวในที่ดินเล็กๆ ก็ทำให้บรรยากาศฟาร์มดูแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ยิ่งเจ้าของสนิทกับม้ามากเท่าไร ม้าจะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจที่พิเศษสุดๆ เลยทีเดียว

ม้าที่ฝึกมาดี จะไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่คือ “ความผูกพันที่รู้ใจกัน”

คนที่เลี้ยงม้าส่วนใหญ่จะพูดตรงกันว่า “ม้ารู้ใจ” ม้าจำเสียงเจ้าของได้ สามารถแสดงอารมณ์ผ่านท่าทางและสายตาจนทำให้เจ้าของรู้สึกเหมือนเลี้ยง “เพื่อน” มากกว่าเลี้ยงสัตว์

การเลี้ยงม้าในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงที่บ่งบอกถึงสถานะความหรูหรา แต่มันคือการเลือกใช้ชีวิตในแบบที่พิเศษและแตกต่าง ม้าเป็นสัญลักษณ์ของความสง่างามที่มีความผูกพันกับคนเลี้ยงที่ใช้ชีวิตใกล้ชิดกัน หากกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงในฟาร์มกว้างๆ สักตัว ม้าอาจเป็นคำตอบที่เหมาะกับคุณที่สุดโดยที่คุณไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้